ส่วนประกอบ

        เจลว่านหางจระเข้ Aloegel ขององค์การเภสัช(GPO) เป็นเจลว่านหางจระเข้ที่ได้รับความนิยมสูงมากตัวหนึ่ง ส่วนผสมหลักคือว่านหางจระเข้แบบเข้มข้น ที่ไม่ได้ใส่สารบำรุงตัวอื่นมาให้เลย เรียกได้ว่าเป็นเจลว่านหางจระเข้ขนานแท้ เนื้อเจลไม่ข้นมาก ทาแล้วซึมเร็ว ช่วยบำรุงผิวหน้าที่แห้งกร้านให้ชุ่มชื้น ช่วยแก้ปัญหาหน้าแห้งลอกได้เป็นอย่างดี

 

วิธีใช้

        ใช้เจลว่านหางจระเข้ Aloegel ทาบำรุงผิวหลังล้างหน้าวันละ 2 เวลา เช้า-ก่อนนอน หรือจะใช้สำหรับป้องกันและฟื้นฟูอาการผิวไหม้แดด ช่วยลดอาการไหม้ แสบ แดง ร้อนที่ผิวได้เป็นอย่างดี ใช้ทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย

        เจลว่านหางจระเข้ Aloegel เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับคนเป็นสิวที่ผมอยากแนะนำ คือปกติแล้วคนเป็นสิวมักต้องทายารักษาสิวที่มีฤทธิ์ในการผลัดเซลผิวสูง เช่น Retin-A , Differin , Benzac AC , Isotrexin ทำให้ผิวหน้าแห้งลอกเป็นขุยกันแทบทุกคน จึงจำเป็นต้องหามอยเจอร์ไรเซอร์มาทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่ปัญหาที่คนเป็นสิวต้องเจอคือ มอยเจอร์ไรเซอร์บางตัวอาจทำให้เกิดการอุดตันผิวหน้า ซึ่งเป็นที่มาของการเกิดสิวอุดตันและการเกิดสิวอักเสบตามมาได้ เจลว่านหางจระเข้จึงเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์จำเป็นที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาที่ว่านี้

 

        ความจริงแล้วในท้องตลาดมีเจลว่านหางจระเข้วางขายมากมายหลายยี่ห้อ แต่โดยส่วนตัวจากที่เคยใช้มาผมชอบเจลว่านหางจระเข้ Aloegel ขององค์การเภสัชมากที่สุด ชอบตรงที่มันไม่ผสมสารบำรุงตัวอื่นนี่แหละ ถ้าเราไม่แพ้ว่านหางจระเข้ สารที่ทำให้เกิดเจล และสารกันเสีย เราก็สามารถใช้เจลว่านหาง Aloegel ได้อย่างสบายใจ โดยเฉพาะกับคนผิวมันมอยเจอร์ตัวนี้ตอบโจทย์มาก ทาแล้วซึมเข้าผิวแบบไม่ทิ้งความมันไว้เลย การอุดตันก็น้อย แต่อาจไม่เหมาะกับคนผิวแห้งสักเท่าไร คือทาได้แต่บางครั้งมันเอาไม่อยู่ ทาแล้วหน้าก็ยังอาจลอกอยู่เพราะ เวลาเราทา Aloegel มันจะแค่เคลือบผิวไว้เท่านั้น ไม่ได้เติมสารอื่นเข้าผิวให้เลย ถ้าจะใช้ Alogel ก็ใช้ได้แต่อาจต้องทามอยเจอร์ไรเซอร์ตัวอื่นเพิ่มเติม โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่อากาศจะแห้งกว่าปกติ โดยรวมแล้วอยากแนะนำให้คนเป็นสิวและผิวมันลองใช้ มัน work มากจริงๆผมพูดจากประสบการณ์ตรงที่ใช้มาด้วยตัวเอง จนทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่ เรียกได้ว่าเจลว่านหางจระเข้ Aloegel หลอดนี้เป็นมอยเจอไรเซอร์ที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้ว