"ปัญหารอยสิวหรือจุดด่างดำจากสิว" คือปัญหาใหญ่สำหรับคนเป็นสิวทุกคน แค่สิวขึ้นก็หนักใจมากพอแล้ว ยังต้องมาเจอรอยสิวหลังจากสิวยุบที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะหายอีก ยิ่งทำให้เครียดและขาดความมั่นใจไปกันใหญ่ วันนี้ Acnedefend มีวิธีลดรอยแดง รอยดำ และจุดด่างดำจากสิวมาฝาก เลือกใช้ได้ตามใจชอบเลยครับ

 

วิธีลดรอยดำจากสิวที่ง่ายและนิยมมากที่สุด คือการทาครีมลดรอยสิว ครีมลดรอยดำจากสิวในท้องตลาดมีให้เลือกหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Mederma intense gel , Hiruscar postacne , Scagel , Clinascar gel , Scarderm plus , Smooth E Acne scar serum ใช้ทาบริเวณรอยดำสิววันละ 2 ครั้ง เช้า-ก่อนนอน แต่ถ้าใครรู้สึกว่าทาแล้วไม่ค่อยได้ผล รอยสิวหายช้าไม่ทันใจ แนะนำให้ทาคู่กับครีม AHA , ครีมวิตามิน E และครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน C ใครสนใจตามไปอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ครับ [แชร์วิธีทำให้หน้าขาวสำหรับคนเป็นสิว เน้นปลอดภัยไร้สารอันตราย] หรืออีกสูตรที่ช่วยลดรอยดำจากสิวได้ดีคือ ทา Skinoren cream คู่กับ AHA แต้มลงไปยังตำแหน่งที่เป็นรอยสิว แต้มทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก เป็นอีกหนึ่งสูตรลดรอยดำจากสิวที่น่าสนใจครับ

 

แสงแดดเป็นปัจจัยที่ทำให้รอยดำจากสิวหายยาก เพราะมันทำให้เม็ดสีผิวเข้มขึ้น ถ้าใครมีรอยสิวเยอะและต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน รอยสิวจะหายช้ามาก การทาครีมกันแดดเป็นวิธีช่วยลดการเกิดรอยดำจากสิวได้ ช่วยป้องกันไม่ให้รอยสิวเข้มขึ้น ดังนั้นถ้าใครอยากให้รอยดำจากสิวจางเร็ว ควรทาครีมกันแดดควบคู่กับครีมลดรอยสิวทุกครั้งก่อนจากบ้านครับ

 

 

อีกวิธีที่ช่วยลดรอยแดง รอยดำ และจุดด่างดำจากสิวได้ดี คือ การมาส์กหน้าด้วยสมนุไพร จริงๆมีหลายสูตรมากแต่สูตรที่ผมอยากแนะนำ คือ "สูตรมาส์กหน้าด้วยใบบับก" ใบบัวบกมีสารช่วยฟื้นฟูผิวที่เกิดจากสิวให้กลับมาดีดังเดิม ช่วยให้จุดด่างดำจางเร็วขึ้น  ใช้ใบบัวบกมาส์หน้าตอนเย็น มาส์กทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยการล้างหน้าตามปกติ ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น รอยดำจากสิวดูจางลง ส่วนผสมและวิธีทำดูได้จากบทความนี้ครับ [สูตรพอกหน้าลดจุดด่างดำ + สูตรน้ำสมุนไพรใบบัวบก ทั้งกินทั้งทาในสูตรเดียวกัน]

 

การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีเป็นวิธีที่ต้องไปทำตามคลินิกเสริมความงาม แต่ละที่อาจเรียกชื่อไม่เหมือนกัน เช่น Microdermabrasion , crystal peel , crystal peeling ซึ่งวิธีทำจะใช้เครื่องพ่นผง Aluminium Oxide ออกมาขัดผิวและดูดกลับด้วยสุญญากาศ กวาดไปทั่วผิวหน้าเพื่อผลัดเซลผิวเก่ากระตุ้นการสร้างผิวใหม่ ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ผิวใส ลดรอยดำ ช่วยให้รอยสิวหายเร็วขึ้น ผมเคยทำเมื่อหลายปีก่อน ถ้าจำไม่ผิดคอร์สละ 9,000 บาท ทำ 10 ครั้ง ตอนนั้นเข้าใจผิดคิดว่าการกรอผิวช่วยลดหลุมสิวได้เลยไปทำ มารู้ตอนหลังว่ามันช่วยไม่ได้เลยเศร้าไป แต่ถ้าเรื่องลดรอยดำวิธีนี้ช่วยได้ครับ ใครสนใจข้อมูลการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีอย่างละเอียด ตามไปอ่านได้จากบทความนี้ [แชร์ประสบการณ์รักษาหลุมสิว จุดด่างดำจากสิว ด้วยวิธี MICRODERMABRASION(MD)ได้ผลจริงหรือ?]

 

ถ้าถามว่าวิธีไหนช่วยลดรอยแดงรอยดำจากสิวได้ดีและรวดเร็วที่สุด การทำเลเซอร์คือคำตอบครับ ซึ่งเลเซอร์ลบรอยสิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ "Vbeam laser" เป็นเลเซอร์รักษารอยแดง รอยดำ จุดด่างดำจากสิว ช่วยให้เส้นเลือดที่กระจุกตัวกระจายตัวออก ช่วยผลัดเซลผิวกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ ทำให้รอยสิวจาง ผิวหน้าขาวใสเร็วกว่าปกติหลายเท่า ใครสนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ครับ [รักษาสิว รอยสิวด้วยเลเซอร์ SmoothBeam + Vbeam ดีจริงหรือเปล่า?]

 

อีกวิธีที่ช่วยลดรอยดำจากสิวและรักษาสิวไปในตัวคือ การทำ "IPL หรือ VIPL" ตัวนี้เป็นคลื่นแสงที่ถูกส่งเข้าไปใต้ผิวเพื่อช่วยลดรอยดำจากสิว ช่วยให้จุดด่างดำบนหน้าจางเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปในตัวด้วย ซึ่งการยิง VIPL จะไม่ก่อให้เกิดแผล หรือสะเก็ดแผลมากมายเหมือนการยิงเลเซอร์ วิธีนี้ผมเคยทำ เวลาโดนยิงไม่เจ็บมากเหมือนโดนหนังสติ๊กดีดเบาๆ หลังทำหน้าจะแดงนิดหน่อยแต่สักพักก็หาย ไม่มีรอยแผลเกิดขึ้นแต่อาจมีสะเก็ดสีน้ำตาลเล็กๆนิดหน่อย ถ้าไม่สังเกตก็มองไม่เห็น ส่วนตัวรู้สึกว่าช่วยลดรอยดำได้ดีทีเดียวเพียงแต่ต้องทำหลายครั้งหน่อยถึงจะเห็นผล(ประมาณ 4-5 ครั้ง) ทำครั้งละประมาณ 3,000 บาท ถ้าเหมาเป็นคอร์สจะถูกกว่านี้ครับ

 

นี่คือวิธีลดรอยดำรอยแดงจากสิวที่ผมอยากแนะนำในวันนี้ แต่ละวิธีใช้เวลาแตกต่างกันออกไป ทาครีมลดรอยสิวนานหน่อย ถ้ายิงเลเซอร์ก็เร็วหน่อย แต่ก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย สุดท้ายการรักษารอยสิวที่ดีที่สุดก็คือการรักษาสิวให้หาย ถ้าไม่เป็นสิวรอยสิวจะไม่เกิด แต่เมื่อมันเกิดแล้วก็ต้องรักษากันไป อย่าเพิ่งท้อใจสู้กันต่อไป Acnedefend เป็นกำลังใจให้ครับ