ปัญหารอยสิว รอยแดง จุดด่างดำจากสิว คือปัญหาที่น่ากังวลรองลงมาจากปัญหาสิว มักเกิดขึ้นหลังจากสิวเม็ดนั้นยุบลงไปแล้ว จริงๆแล้วรอยสิวเหล่านี้สามารถหายเองได้โดยไม่ต้องทำอะไร เพียงแต่ต้องใช้เวลานานเป็นเดือนหรือหลายเดือน ซึ่งอาจไม่ทันใจพวกเราสักเท่าไร วันนี้
Acnedefend มี
"วิธีลดรอยสิวยอดนิยมที่คนเป็นสิวนิยมทำกัน" มาฝาก ขอแชร์จากประสบการณ์ที่เคยทำมานะครับ
1. ทาครีมลดรอยสิว
แน่นอนครับสิ่งแรกที่คนเป็นสิวนึกถึงเมื่อถูกรอยสิวรุกรานก็คือ "ครีมลดรอยสิว" ในท้องตลาดตอนนี้มีขายมากมายหลายแบรนด์ แต่ละแบรนด์มีส่วนผสมและจุดขายเป็นของตัวเอง ส่วนผสมที่นิยมใช้กัน เช่น Allium Cepa Extract , Niacinamide , Vitamin c , Arbutin ส่วนตัวผมลองมาหลายแบรนด์ แต่ตัวที่ผมชอบเป็นพิเศษและมักแนะนำให้คนเป็นสิวใช้อยู่เสมอคือตัว เจลลดรอยสิว Mederma intense gel
ถ้าใครติดตาม Acnedefend มานานจะรู้ว่าผมใช้เจลลดรอยสิวตัวนี้มานานมาก ใช้ตั้งแต่ยังเป็นสูตรเก่าที่เป็นหลอดแบบอลูมิเนียม จนตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นสูตรใหม่ Mederma intense gel ซึ่งดีกว่าเดิมก็ยังใช้อยู่ เรียกว่าเป็นครีมลดรอยสิวตัวโปรดเลยก็ว่าได้ครับ
ส่วนผสมหลัก
- Allium cepa bulb extract ช่วยลดการอักเสบ สมานแผล ช่วยให้สีผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอขึ้น
- Sodium Hyaluronate ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- Allantoin ช่วยลดการระคายเคืองผิว
- มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม
ความรู้สึกจากการใช้จริง
ส่วนตัวรู้สึกว่าครีมลดรอยสิว Mederma intense gel ช่วยให้รอยสิวจางไวขึ้นจริง แต่ไม่ใช่ว่าทาวันนี้แล้วพรุ่งนี้จางเลยนะ อย่างน้อยต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ถึงจะเริ่มเห็นผล เหมาะกับรอยแดงจากสิวช่วงเริ่มต้น หรือรอยดำจากสิวหลังจากสิวหาย ส่วนเรื่องหลุมสิวช่วยไม่ได้นะครับ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ซึมเร็วทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ
- เน้นส่วนผสมจำเป็นที่ช่วยลดรอยแผลจากสิว
- ใช้เทคโนโลยี Liposome ช่วยนำพาสารซึมเข้าผิวได้ดีขึ้น
- หาซื้อไม่ยาก มีขายตามร้านขายยาทั่วไป
ผมซื้อ Mederma intense gel ขนาด 10 กรัม จากร้านขายยาใกล้บ้านในราคา 295 บาท จากราคาข้างกล่อง 450 บาท ใครมีปัญหารอยสิวลองซื้อมาใช้ดูได้ ส่วนตัวรู้สึกว่าใช้ดีครับ
2. IPL
IPL คือ คลื่นแสงชนิดหนึ่งที่มีความยาวคลื่นหลายช่วง ใช้แก้ปัญหาผิวได้หลายแบบ สำหรับคนเป็นสิวจะเน้นใช้ลดรอยแดง รอยดำ จุดด่างดำจากสิวเป็นหลัก ผมเองเคยทำ IPL มาหลายครั้ง ขั้นตอนการทำคือพนักงานจะทำความสะอาดผิวหน้าให้เราก่อน บางที่ถ้ามีสิวอุดตันเค้าจะกดออกให้ด้วย จากนั้นพนักงานจะเอาหมวกมาคลุมผมและใส่แว่นตากันแสงให้
พอเตรียมตัวเสร็จคุณหมอจะปรับค่าพลังงานแสงให้เหมาะกับปัญหาผิวของเรา จากนั้นจะทำการยิงแสงไปยังบริเวณที่เป็นรอยสิว ถ้ามีทั่วหน้าก็ยิงทั่วหน้า ตรงไหนรอยลึกหน่อยก็อาจยิงซ้ำให้อีกรอบ ยิงเสร็จคุณหมอจะแนะนำการดูแลผิวหน้าหลังทำ IPL ให้ฟัง จากนั้นส่งไม้ต่อให้พนักงานทาครีมลดการระคายเคืองและการอักเสบของผิว และปิดท้ายครีมกันแดดครับ
ผลการทำ
หลังจากทำ IPL วันแรก ผิวหน้าจะแห้งรู้สึกแสบหน้าเวลาทาครีมนิดหน่อย ต้องทามอยเจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวควบคู่ไปด้วย ประมาณ 4-5 วัน อาการแสบหน้าที่ว่าจะหายไป ผมเคยทำ IPL อยู่ 4 ครั้ง สัปดาห์เว้นสัปดาห์ รู้สึกเลยว่ารอยสิวจางลงไวมาก หน้านี่ผ่องเด้งขึ้นมาเลยทีเดียว ยอมรับว่าเป็นวิธีช่วยลดรอยสิวที่ดีมาก แต่ต้องทำมากกว่า 1 ครั้งถึงจะเห็นผล และต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงด้วยเช่นกันครับ ใครต้องการลดรอยสิว จุดด่างดำจากสิวอย่างเร่งด่วนผมแนะนำเลยครับ IPL ช่วยได้จริงๆ
3. เมโสหน้าใส
เป็นวิธีฉีดสารบำรุงผิวอย่าง วิตามินซี หรือ สารไฮยาลูรอนิค แอซิดเข้าไปบริเวณผิวชั้นบนเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูผิวของเราในชั้นเมโสให้ดีขึ้นเต่งตึงขึ้น ทำให้ผิวของเราเนียนเรียบ ช่วยลดริ้วรอยจุดด่างดำและรอยสิวได้
วิธีทำ หมอจะใช้เข็มที่บรรจุสารบำรุงฉีดเข้าไปบริเวณผิวชั้นบนที่ละจุด ลักษณะคล้ายกับการสะบัดเข็มของจักรเย็บผ้า ถ้าจุดไหนมีรอยสิวคล้ำหรือเป็นวงกว้างมาก คุณหมอจะฉีดสารเน้นบริเวณนั้นให้ ก่อนทำส่วนใหญ่มักไม่ทายาชา เพราะไม่เจ็บมาก แต่ถ้าใครทนไม่ได้สามารถขอทายาชาได้ ซึ่งผมเคยลองทำมาทั้ง 2 แบบ ผลปรากฏว่าเจ็บพอกัน ยาชาช่วยได้น้อยมาก
ผลการทำ
ทำครั้งแรกก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน รอให้สารที่ฉีดเข้าไปกระตุ้นผิวอีกที รอยสิวขนาดเล็กจางลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนรอยใหญ่ๆจะเห็นผลช้าหน่อย นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับอายุของคนทำด้วย คนอายุมากผิวจะฟื้นฟูช้ากว่าคนอายุน้อย รอยสิวก็จะจางช้ากว่า เป็นเรื่องที่เราต้องทำความเข้าใจก่อนทำ ใครอยากลองทำควรรักษาสิวให้หายหรือลดน้อยลงก่อนจะดีกว่า ไม่งั้นรอยเก่ายังไม่ทันหายรอยใหม่มาอีกแล้ว ฉีดเมโสไปอาจไม่คุ้มค่าครับ
นีคือ 3 วิธีลดรอยแดง รอยดำ จุดด่างดำจากสิวยอดนิยม ที่ผมอยากแนะนำในวันนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่ผมใช้แล้วได้ผลดี แต่ละวิธีมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันออกไป อย่างเช่นการทาครีมลดรอยสิวจุดเด่นคือ “มีค่าใช้จ่ายน้อย หลักร้อยก็ใสได้” แต่จุดด้อยคือ ใช้เวลานานกว่าการทำ IPL และ เมโสหน้าใส ส่วน 2 วิธีหลังจุดเด่นคือ ช่วยให้รอยสิวจางไว เห็นผลเร็วและชัดเจนกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นด้วย ลองเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองดูนะครับ