รีวิวเซตยาทารักษาสิว เป็นสิวหายได้แต่ต้องใช้เวลา
เวลาเป็นสิวมันกลุ้มใจจริงๆนะ ทั้งเจ็บทั้งอาย อยากให้สิวหายเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และสิ่งแรกทีคนเป็นสิวนึกถึงก่อนก็คือ "หาครีมหรือยารักษาสิวมาทา" โดยหวังว่ามันจะช่วยให้สิวหายได้ ตัวผมเองมีโอกาสลองใช้ยาหรือครีมรักษาสิวมาหลายตัว วันนี้ถึงคิวเซตรักษาสิว 4 ตัวที่สัญญาไว้ ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลยครับ
1. แป้งน้ำศิริราช Lotion P No.1
แป้งน้ำตัวนี้จัดเป็นยารักษาสิวตัวแรกที่ช่วยเคลียร์สิวบนหน้าผมไปได้เยอะ ผมรู้จักครั้งแรกจากใน pantip เห็นคนเค้าบอกกันว่าดีมาก ช่วยรักษาสิวได้หลายประเภททั้งสิวอุดตัน สิวผด สิวอักเสบ อ่านจบตอนเช้าผมรีบไปซื้อที่โรงพยาบาลศิริราชทันที ไปตามแผนที่ที่มีคนแชร์กัน อยู่ใต้ตึกตึกสยามินทร์ วางขายอยู่ในห้องหายยาเล็กๆ หน้าห้องจะเขียนไว้ว่า แป้งน้ำศิริราชซื้อได้ไม่เกิน 4 ขวด/คน ผมก็ซื้อตามยอดสูงสุด 4 ขวดร้อย (ขวดละ 25 บาท)
ผมยังจำความรู้สึกครั้งแรกที่ใช้แป้งน้ำศิริราชได้ จำได้ว่าตื่นเต้นมาก คิดเลยว่าสิวต้องหายได้แน่(อ่านมาเยอะ) เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแป้งผสมน้ำ สีออกเหลืองๆหน่อย มีกลิ่นหอมเหมือนกลิ่นน้ำอบที่เราใช้เล่นในวันสงกรานต์ ส่วนผสมหลักคือ Salicylic Acid เป็นสารที่นิยมใส่ในยาทารักษาสิวให้มาที่ 1% ช่วยลดการเกิดสิวเบื้องต้นได้ดี
วิธีใช้ ผมจะเทแป้งน้ำศิริราชลงบนฝ่ามือก่อน จากนั้นใช้นิ้วอีกข้างจุ่มลงไปที่แป้งน้ำแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นสิว ช่วงนั้นสิวผมค่อนข้างเยอะ ผมเลยจัดการทาแป้งน้ำทั่วหน้า หลังทาจะมีแป้งติดเป็นหย่อมๆ อารมณ์เหมือนเวลาเด็กทาแป้งประมาณนั้นเลยครับ ตรงไหนที่เป็นสิวอักเสบเม็ดใหญ่ ผมจะแต้มแป้งน้ำหนาหน่อยให้แป้งติดตรงหัวสิวเยอะๆ ผมรู้สึกว่าการทำแบบนี้ช่วยให้สิวยุบเร็วขึ้น
ผมใช้แป้งน้ำศิริราช Lotion P No.1 ทาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น อยู่ประมาณ 2 เดือน สิวบนหน้าหายไปเยอะมาก สิวขึ้นน้อยลง อักเสบน้อยลง มันได้ผลจริงๆ 1 ขวดใช้ได้นาน 1-2 เดือน กับราคาค่าตัวแค่ขวดละ 25 บาท จัดเป็นยารักษาสิวที่คุ้มค่าคุ้มราคามาก แต่ถ้าพูดถึงเรื่องลดการอักเสบของสิว ผมว่าแป้งน้ำศิริราชตัวนี้ยังสู้ Benzac ac ไม่ได้ครับ
2. Benzac ac
หลังจากใช้แป้งน้ำศิริราชอยู่พักหนึ่ง ผมเริ่มรู้สึกว่าสิวมันทรงๆตัว คือไม่ได้เยอะเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังขึ้นเป็นระยะๆ โดยเฉพาะสิวอักเสบที่คางขึ้นบ่อยมาก เม็ดเก่ายุบไปเม็ดใหม่ขึ้นแทนที่ ทาแป้งน้ำมันก็หายนะแต่บางครั้งใช้เวลาหลายวันกว่าจะยุบ เลยมานั่งคิดว่าทำยังไงสิวอักเสบที่ชอบขึ้นซ้ำซากจึงจะหายได้
หาข้อมูลใน Internet ไปเจอ Benzac ac เข้า เห็นว่าช่วยลดการเกิดสิวอักเสบได้เลยอยากลองใช้ดู แต่ตอนแรกไม่กล้าใช้ เพราะหลายคนบอกว่าใช้ช่วงแรกสิวจะเห่อขึ้นมา กลัวมันเห่อแล้วไม่ยอมหาย
แต่ด้วยความอยากหาย ประกอบกับเบื่อสิวอักเสบบนหน้าเต็มทน จึงตัดสินใจลองใช้ Benzac ดู โดยเริ่มจากความเข้มข้น 2.5% ก่อน ช่วงแรกผมใช้แต้มเฉพาะหัวสิวที่อักเสบ หรือบริเวณที่สิวกำลังจะขึ้น ยังไม่กล้าทาทั้งหน้า(กลัวเห่อ) ทาหลังล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
หลังจากใช้ Benzac ac ผมรู้สึกเลยว่าปัญหาสิวอักเสบที่เป็นหายเร็วขึ้น ช่วยให้สิวยุบเร็วกว่ายาทาสิวทุกตัวที่เคยใช้มา เจอยาดีเข้าแล้วเรา
ผมแต้มสิวด้วย Benzac จนหมดหลอด สิวอักเสบยุบเร็วจริงแต่สิวใหม่ยังขึ้นอยู่ เลยมานั่งคิดว่าเราทำอะไรผิดไปหรือเปล่า คิดไปคิดมาคิดได้ว่า เราใช้ benzac แต้มตอนที่เป็นสิวแล้ว แต่ไม่เคยทาป้องกันก่อนสิวขึ้นเลย ถ้าเราทา benzac ก่อนล้างหน้าอาจจะดีขึ้นก็ได้ ว่าแล้วผมเลยลองใช้ benzac ทาก่อนล้างหน้า ช่วงแรกทาทิ้งไว้ 5 นาที เพื่อทดสอบดูก่อนว่าจะเป็นยังไง (ยังกลัวสิวเห่ออยู่) ผลปรากฏว่าใช้แล้วไม่แพ้ไม่เห่อ เลยเพิ่มเวลาเป็น 15-20 นาที ทาก่อนล้างหน้า เช้า-เย็น ทุกวัน
ทา Benzac 2.5% อยู่สักพัก ปัญหาสิวดีขึ้นจริงครับ สิวอักเสบขึ้นน้อยลง เลยอยากลองเพิ่มความเข้มข้นเป็น 5% บ้าง เผื่อจะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น ตอนใช้ Benzac ac 5% ครั้งแรก รู้สึกเลยว่าแรงกว่าตัว 2.5% มีครั้งหนึ่งผมทาทิ้งไว้นานกินไป พอล้างออกหน้าแดงเหมือนจะไหม้เลยครับ ตอนนั้นตกใจมากแต่ก็เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร ทำให้ผมระวังในการใช้ยามากขึ้น
ผมใช้ Benzac ac 5% ประมาณ 3 เดือน ปัญหาสิวอักเสบซ้ำซากที่เกิดขึ้นหายเลยจริงๆ เมื่อก่อนเวลาเป็นสิวมันจะอักเสบเป็นหนอง กลายเป็นสิวหัวช้างเกือบทุกครั้ง แต่หลังจากใช้ Benzac ทาก่อนล้างหน้าและแต้มสิว ผมไม่เป็นสิวหัวช้างอีกเลย เวลาสิวขึ้นเจอ benzac เข้าไปมันจะยุบภายในไม่กี่วัน จัดเป็นยารักษาสิวอันดับหนึ่งของผมเลยครับ
3. AkneDerm BP5
ยารักษาสิวตัวนี้ผมไม่ได้ตั้งใจซื้อ พอดีไปซื้อ Benzac แล้วที่ร้านขายยาไม่มีขาย มีแต่ตัว AkneDerm BP5 ผมเห็นว่าเป็นตัวยาเดียวกัน ราคาก็ถูกกว่า ขนาด 7 กรัม ราคา 60 เลยตัดสินใจลองซื้อมาใช้ดู อยากรู้ว่าเป็นยังไงเหมือนกัน
เนื้อผลิตภัณฑ์ของ AkneDerm BP5 เป็นเนื้อเจลสีขาว ตัวยาผสมเป็นเนื้อเดียวกับครีมเป็นอย่างดี ต่างจาก Benzac ที่เวลาบีบออกมาจะเห็นยาเป็นเม็ดสีขาวๆเล็กๆ ดูไม่เป็นเนื้อเดียวกัน แต่เวลาใช้ AkneDerm BP5 ผมรู้สึกว่ามันระคายเคืองผิวกว่า หลังทาจะรู้สึกแสบหน้าทั้งที่ผมใช้เวลาทาเท่ากันกับ Benzac เลย แต่ก็อดทนใช้จนหมดหลอด ส่วนเรื่องรักษาสิวไม่ต่างจาก Benzac ถ้าให้เลือกตัวใดตัวหนึ่ง ผมขอเลือก Benzac ครับ แพงกว่านิดหน่อยแต่ระคายเคืองผิวน้อยกว่า
4. Epiduo
Epiduo เป็นยารักษาสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide 2.5% + adapalene 0.1% ถ้าพูดให้เห็นภาพชัดขึ้น เหมือนใช้ Benzac ac 2.5% กับ Differin พร้อมกัน ช่วยรักษาสิวได้หลายประเภท ทั้งสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวผด และสิวเสี้ยน ผมซื้อมาจากร้านขายยาใกล้บ้าน ขนาด 15 กรัม ราคา 550 บาท
ยารักษาสิวตัวนี้ผมซื้อมาใช้เพราะอยากรู้ว่ามันดีกว่า Benzac อย่างที่เค้าร่ำลือกันหรือเปล่า ผมใช้ทาหลังล้างหน้าวันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน เรื่องรักษาสิวผมว่ามันช่วยลดและป้องกันการเกิดสิวได้ดีครับ ช่วยลดการอักเสบของสิว ป้องกันการเกิดสิวอุดตัน ลดความเสี่ยงการเกิดสิวใหม่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยให้สิวเสี้ยนบริเวณซอกจมูกของผมหายไปเยอะอีกด้วย
ถามว่า Epiduo ดีกว่า Benzac มั้ย ผมว่าดีกว่าครับ ผมลองใช้ทาสิวอักเสบรู้สึกเลยว่าหายเร็วมาก แต่ถ้าเทียบเรื่องความแรงแล้ว ผมว่าตัว Epiduo แรงกว่า ปกติผมใช้ Benzac จะไม่มีอาการแสบผิวเลยทั้งที่ใช้ตัวความเข้มข้น 5% แต่พอใช้ Epiduo เวลาเหงื่อออกแล้วไหลมาโดนหน้าผมรู้สึกแสบขึ้นมาทันที มันจะคันยิบๆตรงบริเวณที่ทายา ตอนแรกผมก็แปลกใจว่าทำไมเหงื่อออกแล้วแสบและคันผิว นึกไปนึกมา...อ๋อ เป็นเพราะ Epiduo แน่เลย แล้วก็ใช่จริงๆ หลังจากใช้หมดหลอดผมกลับมาใช้ Benzac เหมือนเดิม อาการแสบผิวที่ว่าก็หายไป
โดยรวมแล้วผมว่า Epiduo เป็นยารักษาสิวที่ดีมากตัวหนึ่ง ส่วนอาการแสบผิวเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่น่ากลัวอะไร แต่ที่ผมไม่ใช้ต่อเพราะรู้สึกว่าแค่ใช้ Benzac ก็เพียงพอต่อการดูแลป้องกันสิวในตอนนี้แล้ว แถมราคายังถูกกว่ามาก แต่ถ้าใครใช้ Benzac แล้วไม่ได้ผลลองใช้ Epiduo ดูได้ครับ ยอมรับว่าดีจริง
นี่คือประสบการณ์ทายารักษาสิวของผมที่อยากแชร์ในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านทุกคน สิ่งที่ผมอยากฝากไว้ก่อนจากกันในวันนี้คือ อยากให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องการใช้ยาให้ดี ก่อนใช้ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาเภสัชกรทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย เป็นสิวหายได้แต่ต้องใช้เวลาครับ ^^
Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน
