เดี๋ยวนี้ "ผลิตภัณฑ์สำหรับคนเป็นสิว" มีให้เลือกเยอะจริงๆ วันก่อนนั่งดูละครช่วงพักโฆษณามีโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เน้นลดการเกิดสิวหลายตัว ทั้งโฟมล้างหน้า คลีนซิ่ง ครีมลดรอยสิว แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีปัญหาสิวกันเยอะมาก ก็นะบ้านเราเป็นเมืองร้อนคนก็เลยเป็นสิวง่าย หายยาก และที่ยากไม่แพ้กันคงเป็นวิธีเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับคนเป็นสิว มันเยอะจนเลือกไม่ถูก ไม่รู้ควรใช้แบบไหนถึงจะดีต่อคนเป็นสิว วันนี้ Acnedefend มีเคล็ดลับง่ายๆในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ว่ามาฝากครับ ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูได้เลย

 

หลักการเลือกโฟมล้างหน้าของผมนั้นง่ายมาก ก่อนอื่นต้องรู้ว่าเราเป็นคนผิวแบบไหน ผิวมัน ผิวผสม ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย จากนั้นไปหาข้อมูลจากในเน็ตว่าคนส่วนใหญ่ที่ผิวเหมือนเราใช้โฟมล้างหน้าตัวไหนกัน คัดออกมาสัก 3 ตัว แล้วมานั่งดูรายละเอียดอีกทีถ้ามั่นใจค่อยตัดสินใจซื้อ อย่างผมเองเป็นคนผิวมัน ชอบเป็นสิวอักเสบ ผมก็ไปไล่อ่านว่าคนเป็นสิวและผิวมันพูดถึงโฟมล้างหน้าตัวไหนกันเยอะ สรุปว่า acne-aid liquid cleanser ชนะจึงตัดสินใจลองใช้ดู โชคดีใช้แล้วถูกกับหน้าก็เลยไม่ต้องเปลี่ยนโฟมล้างหน้าอีก ถ้าถามว่าโฟมล้างหน้าที่ดีในความคิดผมเป็นยังไงผมคิดว่า

ผมคิดว่าหน้าที่ของโฟมล้างหน้ามันมีแค่นี้จริงๆ ที่เหลืออยากบำรุงเพิ่มค่อยหาครีมมาทา หน้าที่ใครหน้าที่มันดีกว่า

=> แนะนำโฟมล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิว

 

ถ้าถามว่าคนเป็นสิวทุกคนต้องใช้คลีนซิ่งก่อนล้างหน้าหรือไม่? ผมคิดว่าไม่จำเป็น ถ้าเราไม่ได้แต่งหน้าหรือทาครีมที่มันล้างออกยากๆแค่ล้างหน้าด้วยโฟมหรือสบู่ล้างหน้าก็พอแล้ว แต่สำหรับคนที่ต้องแต่งหน้าและต้องผจญภัยกับสิ่งสกปรกที่ล้างออกยาก การใช้คลีนซิ่งเช็ดก่อนล้างหน้าถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ วิธีเลือกคลีนซิ่งสำหรับคนเป็นสิวของผม ผมจะเลือกคลีนซิ่งแบบน้ำก่อนเลย หลีกเลี่ยงการใช้คลีนซิ่งแบบออยล์เพราะไม่ชอบความมันที่เกิดขึ้น เวลาเช็ดต้องไม่ทำให้หน้าแห้งตึงมากเกินไป เช็ดแล้วให้หน้ายังฉ่ำๆอยู่อันนี้ใช้ได้ และที่สำคัญเช็ดแล้วต้องไม่ทำให้เกิดอาการคัน หน้าแดง หรือแสบร้อนหน้า ถ้าเป็นแสดงว่าเราน่าจะแพ้คลีนซิ่งตัวนั้นเข้าให้แล้ว

=> แนะนำคลีนซิ่งสำหรับคนเป็นสิว

 

การเลือกซื้อครีมรักษาสิวผมคงไม่ลงรายละเอียดมากขอพูดแบบภาพใหญ่ก็แล้วกัน เพราะจริงๆคนที่จะบอกเราได้ดีที่สุดก็คือหมอที่ตรวจเรา ถ้าเราเลือกซื้อเองบอกเลยว่าเป็นการเดาทั้งหมด ผมเองยอมรับเลยว่าเริ่มจากการเดาเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้เดาแบบไม่ลืมหูลืมตานะ ก่อนใช้ครีมรักษาสิวตัวไหนผมจะศึกษาสรรพคุณและผลข้างเคียงของครีมตัวนั้นก่อน ถ้ามันตรงกับปัญหาสิวที่เป็นจะค่อยๆลองไปทีละตัวโดยเริ่มจากตัวที่อ่อนที่สุดผลข้างเคียงน้อยที่สุด เวลาใช้จะใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไปเพื่อให้เห็นผลการรักษาที่ชัดเจน แต่สิ่งที่ผมจะไม่ทำเลยคือเลือกซื้อครีมที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง เช่น ช่วยให้สิวหายภายใน 7 วัน , สิวหายไม่กลับมาเป็นอีก หรือทาแล้วหน้าขาวใสเร็วเกินไปอันนี้ไม่เคยคิดลอง ครีมรักษาสิวทุกตัวที่ใช้ต้องเป็นยาหรือเวชสำอางที่หาซื้อได้จากร้านขายยาเท่านั้น และก่อนใช้ผมจะ test ครีมก่อนทุกครั้งเพื่อป้องกันอาการแพ้ยาที่อาจเกิดขึ้น อาการแพ้ไม่เข้าใครออกใครอยากให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรือครีมรักษาสิวให้ดีครับ 

 

การเลือกซื้อมอยเจอร์ไรเซอร์ของผมจะเน้นแบบที่เป็น water base เป็นหลัก เนื้อบางเบา ซึมง่าย ให้ความชุ่มชื้นดีโดยไม่ทำให้หน้ามันมาก หรือไม่ก็เป็นแบบเนื้อเจล แต่จะไม่ใช้แบบเนื้อครีมเลยเพราะผมเป็นคนผิวมันถ้าใช้แบบเนื้อครีมจะเสี่ยงต่อการอุดตันสูง แต่ถ้าเป็นคนหน้าแห้งก็ต้องเลือกอีกแบบหนึ่ง แล้วแต่สภาพผิวของแต่ละคน เบื้องต้นให้เราเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) , ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (oil free) และปราศจากน้ำหอม(fragrance free) ส่วนจะแพ้หรือไม่แพ้ ใช้แล้วสิวจะขึ้นหรือไม่ต้องลุ้นกันอีกที

=> แนะนำมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับคนเป็นสิว

 

ครีมกันแดดตัวช่วยป้องกันผิวหน้าหมองคล้ำโดยเฉพาะคนที่ต้องทายารักษาสิวที่มีฤทธิ์ผลัดผิวค่อนข้างจำเป็น วิธีเลือกครีมกันแดดของผมง่ายๆเลย คือเลือกแบบเนื้อบางเบา ถ้าเป็นแบบเนื้อเอสเซ้นส์หรือซีรั่มได้จะดีมาก เน้นแบบซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาแล้วหน้าไม่มันมาก spf ไม่ต้องสูงมากก็ได้เพราะยิ่งสูงจะยิ่งเพิ่มความมันมากขึ้น แต่เดี๋ยวนี้ผู้ผลิตมีเทคโนโลยีใหม่ๆตลอด ปัญหาที่ว่าเลยไม่น่ากังวลเท่าไร เลือกแบบกันน้ำหรือไม่กันน้ำก็ได้ แต่ถ้าเลือกแบบกันน้ำต้องทำความสะอาดให้ดีเพราะมันตกค้างง่ายกว่า

=> แนะนำครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว

 

       นี่เป็นเคล็ดลับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับคนเป็นสิวของผม ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะเน้นไปที่ความรู้สึกเวลาใช้มากกว่า คือใช้แล้วสบายหน้า ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทำให้หน้ามันมาก และที่สำคัญที่สุดใช้แล้วต้องไม่ทำให้สิวขึ้น หรือก่อให้เกิดการอุดตันน้อยที่สุด หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกๆคนครับ