Genwhite ความหวังของคนเป็นรอยดำจากสิว
ผมว่าปัญหารอยดำหรือจุดด่างดำจากสิวคือ “ปัญหาระดับชาติเลยนะ” ใหญ่รองลงมาจากปัญหาสิวเลยก็ว่าได้ คนเป็นสิวต้องเจอปัญหานี้ด้วยกันทุกคน มักเกิดหลังจากสิวเม็ดนั้นยุบตัวลงหรือหายแล้ว เป็นง่ายหายยากขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง บางคนใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ก็หาย แต่บางคนต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่ารอยดำจากสิวที่เกิดขึ้นจะหายหรือจางลง ยิ่งคนที่รอยดำจากสิวจางยากๆเชื่อได้ว่าคงหนักใจมาก เพราะเทียบกันกับสิวแล้ว รอยดำจากสิว ใช้เวลานานมากกว่าจะจาง
ก่อนอื่นเรามาดูต้นเหตุการเกิดรอยดำกันก่อนดีกว่า ว่ามีขั้นตอนหรือกระบวนการเกิดอย่างไร?
ที่มาของรอยดำ
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า คนเป็นสิวมีความเสี่ยงเกิดรอยดำหรือจุดด่างดำสูง ซึ่งต้นเหตุมักเกิดจากการอักเสบของผิวบริเวณที่เป็นสิว พอผิวเกิดการอักเสบร่างกายของเราจะสั่งให้ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดรอยดำหรือจุดด่างดำจากสิวตามมา ยิ่งถ้าผิวบริเวณนั้นเกิดการอักเสบมากหรือลึกลงไปในชั้นผิว ปัญหารอยดำจะอยู่นานและรักษายากขึ้นไปอีก
นั่นหมายความว่าถ้าเราไม่สามารถหยุดการเกิดสิว หรือยับยั้งกระบวนการผลิตเม็ดสีผิวที่เกิดจากการอักเสบได้ ปัญหารอยดำหรือจุดด่างดำจากสิวก็อยากที่จะหาย กลายเป็นวัฏจักรรอยสิวที่ไม่สิ้นสุด "รอยเก่ายังไม่ทันหาย รอยใหม่มาอีกแล้ว" และนี่คือปัญหาที่คนเป็นสิวส่วนใหญ่ต้องเจออย่างไม่ต้องสงสัย
วิธีแก้ปัญหารอยดำจากสิว
หากพูดถึงวิธีแก้ปัญหารอยดำจากสิวที่ดีที่สุด แน่นอนครับ!!! การจัดการที่ต้นเหตุนั่นคือ การรักษาสิวให้หายคือสิ่งที่ดีที่สุด ถ้าไม่มีสิว รอยสิวหรือจุดด่างดำจากสิวจะไม่เกิด แต่ในความเป็นจริงมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะผิวคนเราไม่เหมือนกัน บางคนสามารถรักษาสิวหายได้โดยไม่กลับมาเป็นอีก
แต่บางคนถึงแม้จะพยายามรักษาสิวหรือดูแลผิวหน้าเป็นอย่างดี สิวก็ยังขึ้นวนเวียนอยู่อย่างนั้นไม่หายขาด ยิ่งเป็นสิวซ้ำๆโอกาสการเกิดรอยดำฝังลึกยิ่งมากขึ้น ทำให้การรักษารอยดำจากสิวยากขึ้นไปอีก
ทีนี้หากพูดเรื่องหลักการจัดการกับรอยสิว ผมได้มีการค้นคว้าข้อมูลที่ถูกต้อง รวมถึงรวบรวมข้อมูลจากแพทย์ผิวหนัง มาสรุปให้เพื่อนๆฟัง หากต้องการรักษารอยดำให้ได้ผล ต้องทำอย่างไร?
รอยดำจากสิวเกิดจาก?
รอยดำจากสิว จริงๆแล้วมันมีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Post-inflammatory hyperpigmentation แปลเป็นภาษาไทยง่ายๆคือ รอยดำที่เกิดจากการอักเสบ
ใช่ครับครับ กลไกการเกิดรอยดำจากสิวมันก็คล้ายๆกับการเกิดรอยดำหลังยุงกัดที่พออักเสบก็จะเกิดสารกระตุ้นการอักเสบที่เรียกว่า cytokine ไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีขึ้นมาบริเวณนั้นมากขึ้น จึงจะสังเกตว่าเวลาหลังผิวมีการอักเสบเลยมักจะเกิดรอยดำ ยิ่งอักเสบมากก็ยิ่งดำมาก มันเป็นมาจากสาเหตุนี้ นี่แหละครับ เช่นเดียวกัน ไม่ว่ารอยดำอะไรก็ตามที่เกิดหลังจากการอักเสบ เราจะเรียกรวมกันว่า post-inflammatory hyperpigmentation
สาเหตุที่เรียกรอยดำเหล่านี้เป็นกลุ่มเดียวกันก็เพราะ เจ้ารอยดำจากการอักเสบ รวมถึงรอยดำจากสิวมีวิธีการรักษาที่แตกต่างจากรอยดำชนิดอื่นๆ เนื่องจากสำหรับรอยดำประเภทนี้ การรักษาหลักคือการใช้ยาทา ส่วนการรักษาอื่นๆ เช่นการใช้เลเซอร์ไม่ใช่การรักษาหลัก ไม่ได้มีหลักฐานทางวิชาการมาสนับสนุนมากเท่ากับยาทา ในทางการแพทย์ยาทาจึงเป็นการรักษาหลักนะครับ ดังนั้นบอกไว้ตรงนี้เลยว่าสำหรับใครที่เป็นรอยดำจากสิวแล้วคิดว่าเลเซอร์ดีกว่ายาทา บอกเลยว่าคิดผิดแล้วครับ
ยังไงรอยดำจากสิว ยาทาต้องมาอันดับ 1 แน่นอน
ยาทาลดรอยดำ
ทีนี้ยาทาที่ว่ามันคือยาอะไร? ถ้าตัวที่เป็นมาตรฐานเลย มีการศึกษามานานคือ hydroquinone นั้นเองครับ หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยว่าเป็นสารต้องห้ามในเครื่องสำอางนั้นเอง มันเป็นสารต้องห้ามเพราะสารตัวนี้ผลข้างเคียงมันเยอะ ตั้งแต่ระคายเคือง ทำให้เป็นด่างขาว ทำให้เกิดฝ้าถาวร ทำให้เกิดผิวบางลง เป็นต้น แต่สารตัวนี้มันยังจัดเป็นยาที่เป็นประโยชน์อยู่ แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผิวหนังเท่านั้น แต่ถึงยังไงหลายๆคนที่ใช้ก็อาจจะเคยประสบปัญหาว่า ตัวยาตัวนี้มันระคายเคือง และผลข้างเคียงก็อาจจะหลีกเลี่ยงยากอยู่ดี
ในช่วงหลังๆมันเลยมีสาร whitening ขึ้นมาทดแทนเช่นพวก arbutin , kojic licorice หลายๆคนอาจจะเคยได้ยิน สารเหล่านี้ล้วนออกมาเพื่อทดแทนhydroquinone แต่ประสิทธิภาพของมัน รวมถึงหลักฐานทางวิชาการ ก็ยังไม่มากพอ ทำให้ผลลัพธ์อาจจะไม่ชัดเจน แต่พักหลังๆก็จะมีสารตัวใหม่ๆออกมาหลายๆตัวที่มีการศึกษาและตีพิมพ์ว่าเหนือกว่า HQ โดยไม่มีผลข้างเคียง ตัวอย่างตัวเด็ดๆเลย คือ butylresorcinol สารตัวนี้เริ่มเป็นพระเอกของสารกลุ่ม whitening เนื่องจากมีงานวิจัยตัวเด็ดๆมากมายพบว่ามันมีผลลัพธ์ที่ดีกว่า HQ โดยที่ไม่มีผลข้างเคียง และสามารถลดรอยดำยากๆอย่างฝ้า ได้ โดยฝ้านี่ถือว่าเป็นตัวหินเลย ถ้าลดฝ้าได้รอยสิวจะไม่ใช่เรื่องใหญ่แน่นอน โดยการวิจัยของสารตัวนี้ลงในวารสารทางการแพทย์ดังๆมากมายเลยครับทั้งในฝั่งเกาหลี ญี่ปุ่น หรือทางยุโรปก็ตาม
โดยพูดมาขนาดนี้หลายคนคงอยากรู้แล้วว่าสรุปพูดหลักการมาเนิ่นนานผมมีผลิตภัณฑ์อะไรมาแนะนำบ้างบอกตามตรงว่าไม่นานมานี้ ผมก็เพิ่งเจอตัวที่น่าสนใจมากตัวหนึ่ง เลยอยากนำมาเล่าให้ฟังว่า ทำไมผมถึงคิดว่ามันเป็นความหวังของคนที่เป็นรอยดำจากสิวจริงๆ
ชื่อของผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือ GENWHITE จากแบรนด์ KENE เหตุผลที่มันต่างจนผมเรียกมันว่าความหวังคือเนื่องจาก คือมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมส่วนผสม 6 ตัวที่มี งานวิจัยที่ได้ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ มาอยู่ในขวดเดียว แล้วทดสอบแล้วว่าส่วนผสมแต่ละตัวมันทำงานเสริมกัน คือต้องอธิบายว่า ไม่ใช่ว่าส่วนผสมที่เคลมว่าลดจุดด่างดำได้ จะทำได้จริงนะครับ เพราะส่วนมากจะเป็นบริษัทผู้ผลิตสารเคลมขึ้นมาเอง แต่การที่เราได้ส่วนผสมที่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ตีพิมพ์ มันเป็นเครื่องการันตีว่า ส่วนผสมเหล่านั้นได้ผลจริงๆ ไม่ได้คิดไปเอง
โดยตัวผลิตภัณฑ์ก็ออกแบบมาสำหรับคนที่เป็นจุดด่างดำ รอยดำจากสิว ฝ้า สีผิวไม่สม่ำเสมอโดยเฉพาะ
ด้วยความที่มันใช้ 6 ส่วนผสมมาทำงานร่วมกันทำให้ประสิทธิภาพมันดีมาก เหมือนจัดการทุกทาง โดยส่วนผสมตัวหลักๆเด็ดๆที่ผมชอบ คือ butylresorcinol , sepiwhite , PKEK peptide และ niacinamide เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้คือ paper ชัดเจน และส่วนผสมบางตัวนอกจากจะไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีแล้ว ยังมีกลไกที่ช่วยเรื่องรอยดำจากสิวโดยตรงคือไปยับยั้ง cytokine จำได้ไหมครับ ผมเคยบอกว่าถ้ามีการอักเสบ จะมีสารบางตัวไปกระตุ้นรอยดำ คือ PKEK peptide ใน genwhite มันมีการศึกษาว่าไปยับยั้งสารตัวนั้นได้ ทำให้เหมือนยับยั้งกระบวนการเกิดรอยดำจากสิวได้ตั้งแต่แรกเริ่มเลยนั่นเอง
โดยส่วนผสมแต่ละตัว เดี๋ยวผมจะมาเล่าให้ฟังทีละตัวนะครับ
KENE GENWHITE DARK SPOT CORRECTOR
ส่วนประกอบสำคัญ(Ingredients)
1. Butylresorcinol liposome
เป็นส่วนผสมช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิวประสิทธิภาพสูง เจ้าตัวนี้เหมือนเป็นพระเอก ที่ทำให้ผิวมีการผลิตเม็ดสีเมลานินลดลง มีการวิจัยทางการแพทย์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติยืนยันแล้วว่าสามารถลดเลือนฝ้าได้จริง ให้ผลลัพธ์ชัดเจน ออกฤทธิ์ยับยั้ง tyrosinase เอนไซม์กระตุ้นเม็ดสีได้ดีกว่า hydroquinone โดยปราศจากผลข้างเคียง โดยตัวนี้แหละครับ ที่ออกฤทธิ์กลไกเดียวกับตัว HQ ซึ่งเหมือนยาตัวหลักในการจัดการรอยดำจากสิว แต่มันไม่มีผลข้างเคียง ทำให้เราหวังผลการลดรอยดำจากสารตัวนี้มาก
2. PKEK peptide
เป็นนวัตกรรมเปปไทด์ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำอย่างได้ผล
ตัวนี้จะออกแนวยับยั้งก่อนเซลล์มันจะสร้างเม็ดสี โดยไปยับยั้งตัวกระตุ้นต่างๆที่มีกระตุ้นเซลล์ melanocyte ทั้งตัวกระตุ้นจากแดด จากสิว จากการอักเสบ เลยช่วยช่วยลดความคล้ำจากแดด ลดรอยดำหลังการเกิดสิว รวมถึงลดรอยแดง และการอักเสบได้ดีอีกด้วย
3. Sepiwhite MSH
หรือ undecylenoyl phenylalanine เป็นโมเลกุลประสิทธิภาพสูงที่ออกฤทธิ์ลดการสร้างเม็ดสีตั้งแต่กลไกเริ่มต้น ยับยั้ง alpha-MSH สัญญาณกระตุ้น melanocyte ให้เกิดกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นต้นเหตุการเกิดจุดด่างดำ โดยสารตัวนี้ถ้าใครเคยลองอ่านรีวิวเครื่องสำอางค์ก็จะพบว่ามีการใช้ในเครื่องสำอางค์แบรนด์ใหญ่ๆอย่าง SK-II อยู่
4. Rumex occidentalis
สารสกัดจากพืช Rumex occdentalis สารตัวนี้ได้รับการพิสูจน์ว่ามีความสามารถยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase ที่ก่อให้เกิดเม็ดสีและจุดด่างดำได้เหนือกว่า arbutin และ hydroquinone และมีการวิจัยในเรื่องการลดฝ้าครับ
5. Alpha arbutin
ส่วนผสมที่ได้รับการยอมรับ และเป็นที่รู้จักกันดีในประสิทธิภาพการลดเลือนจุดด่างดำ ทำหน้าที่ในการยับยั้ง tyrosinase ยับยั้งกระบวนการ oxidation ของ tyrosine และ DOPA ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส จุดด่างดำดูจางลง ตัวนี้เป็นพระเอกที่อยู่มานาน และยังได้ผลลัพธ์ที่ดีอยู่ครับ
6. Niacinamide
ส่วนผสมสารพัดประโยชน์ มันคือ วิตามินบีสามนั้นเอง ส่วนผสมตัวนี้ะช่วย ที่ช่วยขัดขวางกระบวนการขนส่ง melanosome ไปที่ผิวชั้นบนทาให้จุดด่างดำจางลง ขจัดความหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และยังช่วยเพิ่มปริมาณ free fatty acid และ ceramide ในผิว เสริมความแข็งแรงของชั้นผิว ลดการสูญเสียความชุ่มชื้น ช่วยลดการเกิดรอยแดงและการอักเสบของผิว จัดเป็นสารที่นิยมใส่ในผลิตภัณฑ์ลดเลือนจุดด่างดำตัวหนึ่ง
หากดูจากส่วนผสมหลักทั้ง 6 ตัวของเซรั่มลดรอยสิว GENWHITE จะเห็นได้ว่า เน้นที่การจัดการรอยดำจากสิวเป็นหลัก โดยเริ่มตั้งแต่การยับยั้งสัญญาณที่มากระตุ้นโดย PKEK และ sepiwhite ยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase เพื่อลดการสร้างเม็ดสีเมลานินต้นเหตุการเกิดจุดด่างดำจากสิว ขัดขวางกระบวนการขนส่งเม็ดสีผิว ไปจนถึงการลดการอักเสบและรอยแดงจากสิว เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวของสารช่วยลดการเกิดรอยดำจากสิว ที่ครบมากที่สุดตัวหนึ่งครับ ซึ่งเป็นหลักการของ whitening เลยว่าหากมีการรวมกันหลายกลไกจะได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ความรู้สึกจากการใช้จริง
ผมรู้จักเซรั่มลดรอยสิว GENWHITE มาสักพักแล้ว ทดลองใช้มาตั้งแต่ช่วงตั้นปีเพิ่งมีโอกาสได้เขียนก็วันนี้ สิ่งที่น่าสนใจและเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์คงหนีไม่พ้นส่วนผสมที่เน้นจัดการรอยดำจากสิวโดยตรง พร้อมกับระบุ % ของส่วนผสมอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นปริมาณสารที่หวังผลได้จริงๆ ซึ่งอันนี้คือข้อแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆเลย บางแบรนด์อาจจะมีใส่หลายๆตัว แต่พอไม่บอกปริมาณเราจะไม่รู้เลย สรุปใส่มาเพียงพอต่อการออกฤทธิ์ทุกตัวจริงๆหรือเปล่า และยิ่งใครที่ใช้อะไรก็ไม่ได้ผล ผมว่าอย่างน้อยถ้าลองส่วนผสมที่เค้ามี paper ยืนยันจริงๆ อย่างน้อยคือมันมีเครื่องยันยันครับ ว่าส่วนผสมเหล่านั้นมันมีประสิทธิภาพจริงๆ ไม่ใช่ว่าเรากำลังใช้อะไรที่คิดเองว่าดี
ด้านผลลัพธ์ต้องบอกเลยว่าประทับใจมาก โทนสีผิวโดยรวมสว่างขึ้น บริเวณหน้าผากที่ดำคล้ำจากแดดคือก็สว่างขึ้นด้วย แต่ที่ชัดๆเลยคือจุดด่างดำจากสิวจางลงชัดเจน ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้ผมประทับใจ
เนื้อผลิตภัณฑ์คือเป็นเนื้อที่ผมชอบ เป็นเนื้อเซรั่มบางเบา ซึมเร็ว ให้ความชุ่มชื้นผิวได้ดีโดยไม่ทิ้งความมัน เหมาะกับผิวคนเป็นสิวที่มักมีปัญหาหน้ามันรูขุมขนกว้าง ส่วนตัวชอบตรงที่ใช้เป็นครีมบำรุงผิวและครีมลดรอยสิวไปในตัวได้เลย สำหรับใครที่เป็นรอยดำจากสิว อันนี้เป็น 1 ใน the must ที่ต้องลองครับ
Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน
