สิวกับรอยสิวเป็นของคู่กัน เป็นเรื่องที่คนเป็นสิวคุ้นเคยเป็นอย่างดี หลายคนคิดว่ารอยสิวเกิดจากการบีบสิว ถ้าไม่บีบสิวรอยสิวจะไม่เกิด ซึ่งไม่ถูกซะทีเดียว จริงอยู่ที่การบีบสิวทำให้เกิดรอยแดง รอยดำจากสิวตามมา แต่ถ้าเราไม่บีบสิวแล้วปล่อยให้สิวหายเอง ยังไงรอยสิวก็เกิดขึ้นอยู่ดี เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยากครับ
วิธีแก้ปัญหารอยดำสิว
วิธีแก้ปัญหารอยแดง รอยดำ จุดด่างดำจากสิวมีหลายวิธี ตั้งแต่การใช้เทคโนโลยีอย่างเลเซอร์ , IPL หรือ การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี(microdermabrasion)เข้าช่วย หรือจะเป็นการทำทรีทเม้นท์หน้าใส เมโสหน้าใสตามคลินิกต่างๆ แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้น การหา “ครีมลดรอยสิว” มาทา ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก
ครีมลดรอยสิว
ครีมลดรอยสิวในท้องตลาด มักมีส่วนผสมช่วยให้รอยสิวอ่อนนุ่มลง ลดการสร้างเม็ดสีผิวช่วยให้รอยสิวจางไว ผลัดเซลผิวช่วยปรับผิวหน้าให้เรียบเนียนขึ้น ส่วนผสมที่นิยมใส่ในครีมลดรอยสิวมีหลายตัว เช่น สารสกัดจาก Allium cepa , Niacinamide , Arbutin , Vitamin E , Vitamin C ซึ่งครีมลดรอยสิวที่จะพูดถึงวันนี้ คือครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซีเข้มข้น 12% ที่มีชื่อว่า “Asco C+ Booster Serum” นั่นเองครับ
Nuceara Asco C+ Booster Serum
ส่วนผสมสำคัญ
ส่วนผสมสำคัญของ Asco C+ Booster Serum ขวดนี้คือ L-Ascorbic Acid ที่มีความเข้มข้นถึง 12% ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่หวังผลเรื่องการลดรอยสิว จุดด่างดำ ปรับผิวหน้าให้สว่างใสขึ้นได้ดี ซึ่งจุดเด่นของเซรั่มวิตามินซี Asco C+ ที่แตกต่างจากครีมวิตามินซีในท้องตลาดทั่วไป คือ
1. ใช้ Vitamin C ฟอร์ม L-Ascorbic Acid เกรดความบริสุทธิ์สูง
มีอนุภาคเล็กพิเศษ ปกติวิตามินซี ที่ใช้ใน skincare มีหลายฟอร์ม ซึ่ง L-Ascorbic Acid เป็นฟอร์มที่ดีต่อผิว และซึมได้เร็วที่สุดของวิตามินซี ดีกว่าตัวอนุพันธ์อื่นๆ ที่ดูดซึมเข้าผิวได้ช้ากว่า และมีงานวิจัยตีพิมพ์ให้ผลลัพธ์ในทางบวก เป็นที่ยอมรับถึงประสิทธิภาพมากที่สุด
2. มีปริมาณ Vitamin C 12%
ซึ่งเป็นปริมาณที่เห็นผลทั้งด้านความขาวกระจ่างใส และลดริ้วรอยได้ รวมถึงลดรอยแผลจากสิวได้ไว โดยไม่ก่อการระคายเคืองมากเกินไป จากการใช้ Vitamin C เกินโดส
3. ใช้สูตรลดการใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย
เพราะถ้า Vitamin C (L-Ascorbic Acid) โดนน้ำในสูตรจะเสื่อมอย่างรวดเร็ว เพื่อคงความสเถียรของ Vitamin C ทางแบรนด์จึงใช้เบส Propanediol ที่สกัดจากธรรมชาติ (ได้จากข้าวโพด) เป็นหลัก ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เมื่อใช้ในปริมาณสูงเหมือน Propylene Glycol ที่ได้จากกระบวนการปิโตรเคมี
4. เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นของเหลวใส
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Vitamin C ละลายอย่างสมบูรณ์ต่างจาก Vitamin C (L-Ascorbic Acid) สูตรของโปรดักอื่นที่อาจแค่เป็นผงวิตามินซีสีขาว แขวนตะกอนในเนื้อผลิตภัณฑ์ ไม่ได้ละลายอย่างสมบูรณ์ซึ่งทำให้ซึมเข้าผิวได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และยังก่อการระคายเคืองสูงตามมาด้วย
5. มีสารช่วยให้ Vitamin C ซึมเร็ว
มีสาร Ethoxydiglycol ซึ่งช่วยนำพา Vitamin C ให้ซึมเข้าผิวได้ลึก และไวขึ้น
6. เสริมสรรพคุณด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ
Asco C+ นอกจากมีส่วนผสมหลักอย่าง Vitamin C บริสุทธิ์ความเข้มข้นสูงแล้ว ทางแบรนด์เพิ่มส่วนผสมจากธรรมชาติ อย่างสารสกัด Naringenin สารออกฤทธิ์ flavonoid จากผลเกรปฟรุต ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพด้าน Whitening ให้มีประสิทธิภาพขึ้น ซึ่งผลไม้ที่มี Vitamin C สูง มักมี flavonoid เป็นองค์ประกอบเสริมฤทธิ์กัน
ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม สีสังเคราะห์ สารกันเสีย และซิลิโคน ไม่อุดตันรูขุมขน
เนื้อผลิตภัณฑ์
เนื้อผลิตภัณฑ์ของ Asco C+ เป็นเนื้อเซรั่มสีเหลือง ทาตอนแรกจะรู้สึกมันเล็กน้อย สัมผัสจะคล้ายอาร์แกนออยล์แต่บางเบากว่า แต่พอทิ้งไว้สักพักความมันจะหายไป เนื้อเซรั่มซึมเข้าผิวได้ดีมากเหมืนกับที่ทางแบรนด์บอกเอาไว้
กลิ่น
ไม่มีกลิ่นน้ำหอมกวนใจ เป็นเรื่องที่ดีเพราะหลายคนแพ้ส่วนผสมจำพวกน้ำหอม (Fragrance/ Perfume)
วิธีใช้
ใช้ Asco C+ Booster Serum ทาบริเวณที่เป็นรอยสิว จุดด่างดำจากสิว หรือใช้ทาทั่วหน้าเพื่อบำรุงผิว ทาหลังล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-ก่อนนอน
ถ้ามียาทาสิว และครีมบำรุงตัวผิวอื่น ทาตัวไหนก่อน-หลัง?
เรียงลำดับการทาดังนี้
ยารักษาสิว -> Asco C+ Booster Serum -> ครีมบำรุง -> ครีมกันแดด
ราคา
Asco C+ Booster Serum ขนาด 9 ml ราคา 279 บาท
สถานที่จัดจำหน่าย
- สั่งซื้อผ่าน facebook ที่ https://www.facebook.com/nucearaThailand/
- สั่งผ่าน Line ที่ Line ID : @nuceara หรือคลิก >> goo.gl/jeYAn7
- สั่งผ่าน Lazada ได้ที่ goo.gl/ce69SX
เคล็ดลับเร่งสปีดลดรอยสิวอย่างเร่งด่วน
หากใครมีปัญหารอยสิวขนาดใหญ่ หรือรอยแผลสิวที่ค่อนข้างรุนแรง อยากให้รอยสิวจางไวขึ้น ผมแนะนำให้ทาครีมลดรอยสิว หรือ Asco C+ Booster Serum ร่วมกับการใช้เทปแต่งแผลไมโครพอร์ โดยทาเซรั่ม Asco C+ ลงไปก่อน จากนั้นปิดทับบริเวณรอยแดง รอยดำ หรือจุดด่างดำจากสิวที่เป็นด้วยเทปแต่งแผล วิธีนี้จะช่วยให้ครีมหรือเซรั่มวิตามินซีที่ทาออกฤทธิ์ได้ยาวนานขึ้น มีส่วนช่วยให้รอยสิวหายเร็วขึ้นได้ครับ
ปัญหารอยสิวเป็นอะไรที่น่าเบื่อนะครับ เป็นง่ายหายช้า ปกติรอยสิวสามารถหายเองได้โดยไม่ต้องทาครีมอะไรเลย แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนกว่ามันจะหาย การทาครีมหรือเซรั่มลดรอยสิวสามารถช่วยย่นระยะเวลาตรงนี้ลงได้ ช่วยให้รอยสิวจางเร็วกว่าเดิมมาก ซึ่งผมคิดว่า Asco C+ Booster Serum วิตามินซี 12% ขวดนี้น่าจะตอบโจทย์คนเป็นสิวที่มีปัญหารอยสิว รอยแดง จุดด่างดำจากสิวได้เป็นอย่างดีครับ