เชื่อว่าหลายคนเป็นสิวหลายคงเคยมีปัญหา ผิวหน้าหยาบกร้าน แห้ง ลอก เป็นขุย ผิวขาดน้ำหรือความชุ่มชื้น โดยเฉพาะคนที่ต้องทายารักษาสิวที่มีฤทธิ์ผลัดเซลผิวแรงๆอย่าง Benzac , Retin-a หรือ Differin มักหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ยาก ยิ่งเวลาโดนแดดไม่ต้องพูดถึง ผิวจะแสบ แดง บางครั้งอาจมีอาการคันร่วมด้วย ถ้าปล่อยไว้ไม่ทำอะไร รับรองว่าปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำถามหาแน่นอนครับ
วิธีเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเร่งด่วน
- ไม่อาบน้ำหรือล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
- ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน หรือสูตรสำหรับผิวแห้งโดยเฉพาะ
- หลีกเลี่ยงการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในกลุ่มฆ่าเชื้อ เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองได้
- หลีกเลี่ยงการขัดหน้า ลอกหน้า หรือการทำทรีทเม้นท์ที่มีการผลัดเซลผิวรุนแรง
- ดื่มน้ำมากขึ้น ถ้าเป็นไปได้ควรดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำที่อุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น
- ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
- ทามอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยกักเก็บ และป้องกันไม่ให้ความชุ่มชื้นออกจากผิว
ผมเคยใช้มอยเจอร์ไรเซอร์มาหลายตัว ส่วนใหญ่จะเน้นตัวที่บางเบา ให้ความชุ่มชื้นดี ไม่เพิ่มความมันให้ผิวหน้า และที่สำคัญใช้แล้วต้องไม่ทำให้สิวขึ้น ซึ่งครีมบำรุงที่ผมพูดถึงเป็นประจำมีหลายตัว เช่น เจลว่านหางจระเข้ , Hada labo , Atopalm แต่วันนี้ผมมีอีกตัวที่อยากพูดถึง เป็นครีมที่ผมเพิ่งได้ลองใช้ และรู้สึกว่ามันตอบโจทย์คนเป็นสิวไม่น้อย "MEDICA VIVA Skin Booster" คือ มอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนั้นครับ
MEDICA VIVA Skin Booster
เมดิก้า วิว่า สกิน บูสเตอร์ เป็นครีมบำรุงผิวหน้า เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิวและกักเก็บน้ำใต้ผิว เสริมชั้นผิวให้กลับมาแข็งแรง พร้อมลดการระคายเคือง ลดการอักเสบ ลดผื่นแดงคัน ฟื้นฟูผิวเสีย ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย และอาการผิวติดสารอันตราย ให้ผิวกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง พร้อมป้องกันริ้วรอยใหม่ๆ และป้องกันผิวร่วงโรยก่อนวัย เนื้อครีมบางเบา ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม และพาราเบน
นี่คือข้อมูลของผลิตภัณฑ์เบื้องต้น ทีนี้มาดูข้อมูลจากการใช้จริงกันบ้าง ว่าจริงอย่างที่ว่าไว้หรือเปล่า?
ความรู้สึกจากการใช้จริง
เนื้อผลิตภัณฑ์
เป็นเนื้อครีมความหนืดต่ำ เรียกว่าแทบจะเป็นเนื้อเจลก็ว่าได้ เกลี่ยง่าย ซึมเข้าผิวดี ไม่เพิ่มความมันให้ผิวหน้า ใช้นิดเดียวสามารถทาได้ทั่วหน้า คือปกติเวลาทามอยเจอร์ไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นดี ส่วนใหญ่จะมาพร้อมความมัน ทาแล้วจะรู้สึกหนักหน้า ไม่สบายผิว แต่ตัว VIVA Skin Booster ทำเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาได้ดี ไม่หนัก ไม่มัน ซึ่งทำให้ผมแปลกใจได้ไม่น้อย
กลิ่น
ไม่มีกลิ่นน้ำหอม เพราะไม่ผสมน้ำหอม แต่เวลาทาจะได้กลิ่นเหมือนน้ำหมักหรือกลิ่นยีสต์ คล้ายกับกลิ่นของ Tonymoly เป็นกลิ่นอ่อนๆไม่ฉุนเหมือนครีมที่ใส่น้ำหอม ซึ่งผมว่ามันธรรมชาติดีครับ
ความรู้สึกหลังใช้
เรื่องความชุ่มชื้น VIVA Skin Booster ทำได้ดีทีเดียวครับ ก่อนใช้ผมมีปัญหาหน้าลอกเป็นขุยจาก Benzac แถวๆแนวกราม ลองทา VIVA Skin Booster ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ปัญหาผิวลอกหายจริงครับ ยอมรับเลยว่าครีมให้ความชุ่มชื้นกว่าที่ตาเห็นมาก
คือ ตอนทาผมลองสังเกตเนื้อครีม ช่วง 1 นาทีแรก จะรู้สึกมีความมันนิดๆเคลือบผิวอยู่ แต่ถ้าทาหรือนวดหน้าต่อ ความมันที่ว่าจะหายไป ตัวครีมจะซึมเข้าผิวเลย ที่ผมคิดว่ามันซึมเข้าผิวเพราะหลังจากนวดหน้าต่อ ไม่มีเนื้อครีมลอกออกมาเหมือนมอยเจอร์บางตัว ที่เน้นเคลือบผิวมากกว่าบำรุงผิวข้างใน
ถ้าเทียบกับเจลว่านหางจระเข้ และ Hada labo ผมว่า VIVA Skin Booster ให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่า ส่วนเรื่องความมันหลังทามันน้อยกว่าตัว Atopalm , Physiogel และ Ezerra cream ช่วยให้ปัญหาหน้าแห้งแสบจากยาทาสิวลดลงได้จริงครับ อันนี้ confirm เพราะเจอมากับตัว ส่วนเรื่องผื่นแดงคัน หรือปัญหาสิวสเตียรอยด์ผมไม่แน่ใจว่าช่วยได้มากน้อยแค่ไหน เพราะผมไม่ได้เป็น
ราคา
MEDICA VIVA Skin Booster ขนาด 30 ml ราคา 1,090 บาท
จุดเด่น
- เนื้อครีมบางเบา ซึมเร็ว ไม่เพิ่มความมันให้ผิวหน้า
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน ที่หลายคนแพ้
- ให้ความชุ่มชื้นดี ไม่ทำให้ผิวหน้ามันมากเกินไป
- ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ผิวมัน ผิวผสม ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย
- ไม่อุดตันผิว คนเป็นสิวใช้ได้
จุดด้อย
- ถ้าผิวแห้งและอยู่ในที่ที่มีอากาศแห้งมาก อาจเอาไม่อยู่ ควรทามากกว่าวันละ 2 ครั้ง
- ยังไม่มีจำหน่ายตามร้านทั่วไป ต้องสั่งซื้อผ่านเพจ facebook หรือตัวแทนเท่านั้น
ระหว่างรักษาสิวผิวหน้าเราจะอ่อนแอแพ้ง่ายเป็นพิเศษ ทั้งจากยารักษาสิวและสภาพแวดล้อมรอบตัว การทาครีมบำรุงหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นวิธีง่ายๆที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความแข็งแรงให้กับผิวหน้าได้ แต่ต้องเลือกตัวที่เหมาะกับสภาพผิว อ่อนโยน และที่สำคัญต้องไม่ก่อให้เกิดการอุดตันด้วยครับ ^^