ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เรื่องสิวก็เช่นกัน มีหลายเรื่องที่เราพยายามทำเพื่อรักษาสิว คิดเองบ้าง ได้รับคำแนะนำจากคนอื่นบ้าง บางคนดีขึ้น บางคนแย่ลง บางคนไม่มีการเปลี่ยนแปลง คำถามคือ? ถ้าไม่ได้ผลแล้วความผิดพลาดอยู่ตรงไหน ทำไมสิวไม่ยอมหายสักที วันนี้ Acnedefend มีข้อควรระวังมาบอกครับ

 

สิวเป็นเรื่องธรรมชาติมีขึ้นก็มีหาย บางคนเป็นสิวนิดๆหน่อยๆไม่ต้องทำอะไรก็หายเองได้ แต่กับบางคนเป็นแล้วไม่หาย ยิ่งปล่อยไว้ยิ่งบานปลาย ผมเองเป็นหนึ่งคนที่ไม่รีบรักษาสิวให้หาย เริ่มต้นจากความไม่รู้เป็นที่ตั้ง ไม่รู้ว่าเป็นสิวต้องรักษา ไม่รู้ว่าต้องจัดการยังไง ไม่รู้ว่าการบีบสิวไม่ดี ไม่รู้ว่าหลุมสิวหายยาก ปล่อยปละละเลยจนสิวและรอยสิวขึ้นเต็มหน้า กว่าจะถึงมือหมอก็สายเกินไป ทำให้รักษายากและกินเวลานานกว่าที่ควร  ดังนั้นใครยังเป็นสิวไม่มาก ควรรีบรักษาให้หายแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งรักษารอยแผลเป็น หรือหลุมสิวภายหลัง "(บางคน) สิวหายเองได้ แต่ไม่รู้ใช้กับเราได้หรือเปล่า?"

 

อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือเรื่อง "สิวอักเสบ" ต้นเหตุการเกิดหลุมสิวและรอยแผลเป็นบนผิวหน้า ส่วนใหญ่คนที่มีปัญหาหลุมสิวมักเกิดจากการรักษาสิวไม่ถูกวิธี ปล่อยให้สิวอักเสบบวมแดง หากไม่รีบจัดการหรือป้องกันแต่เนิ่นๆ พอสิวเป็นหนองหรือเกิดการอักเสบนานๆมันทำให้เนื้อผิวรอบๆบริเวณที่เป็นสิวถูกทำลาย พอสิวหายร่างกายซ่อมแซมไม่ทันจึงเกิดเป็นรอยแดงหรือรอยแผลขนาดเล็กขึ้น หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบรักษาจะเกิดเป็นพังผืดกลายเป็นหลุมสิวที่รักษายากในที่สุด เห็นมั้ยครับว่าการปล่อยให้สิวอักเสบก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงขนาดไหน ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ผิวหน้ามีปัญหา อย่าปล่อยให้สิวอักเสบดีที่สุดครับ

 

หลายครั้งที่เวลาเจอปัญหาสิวรุมเร้ามากๆทำให้เราใจร้อนตัดสินใจผิดพลาด จนบางครั้งตัดสินใจใช้วิธีเร่งรัดเพื่อให้สิวหายเร็วที่สุด ตัวอย่างที่อธิบายเรื่องนี้ได้ดี คือ การใช้ครีมที่ผสมสารอันตราย หรือครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่ใช้ช่วงแรกสิวจะหายภายในเวลาไม่นาน แต่พอใช้ไปสักพักหรือหยุดใช้เมื่อไร สิวจะเห่อขึ้นมาจนนับกันไม่หวาดไม่ไหว หรือที่นิยมเรียกว่า "สิวสเตียรอยด์" สิวแบบนี้น่ากลัวเพราะมันทำให้โครงสร้างผิวผิดเพี้ยนไป จนกลายเป็นคนผิวแพ้ง่ายเป็นๆหายๆไม่จบไม่สิ้น แน่นอนครับมันไม่ใช่วิธีถูกต้อง บางคนอาจคิดว่าใช้ช่วงสั้นๆคงไม่เป็นไรพอสิวหายค่อยเลิก อย่าเสี่ยงเลยครับผมว่าได้ไม่คุ้มเสีย การหาหมอ ทายา กินยาตามปกติสิวก็หายได้เหมือนกัน "ช้าหน่อยแต่ปลอดภัย ดีกว่าหายไวแต่หน้าพัง" แถมไม่มีคนมารับผิดชอบอีก กลุ้มใจกว่ากันเยอะเลยครับ

 

ปัญหาที่ตามมาหลังจากสิวหาย คือปัญหารอยสิว ไม่ว่าจะเป็นรอยแดง รอยดำ รอยแผลขนาดเล็ก หรือหลุมสิว ถ้าเป็นรอยบางๆโดยที่เนื้อผิวไม่เสียหายอันนี้ไม่น่ากังวล ปล่อยไว้เฉยๆหรือทาครีมบำรุงไม่นานก็หาย แต่ถ้าเป็นรอยแผลที่เนื้อผิวโดนทำลายควรรับรักษาแต่เนิ่นๆ เพราะแผลที่เกิดขึ้นอาจเป็นต้นเหตุการเกิดแผลเป็นหรือหลุมสิวในวันหน้าได้ ดังนั้นเมื่อเกิดรอยสิวขึ้นให้รีบหาครีมมาทา หากเกิดเป็นแผลเป็นเกินกว่าที่ครีมจะเยียวยาได้ ให้รีบไปปรึกษาหมอ ทำทรีทเม้นท์ แต้มกรด กรอผิว หรือทำเลเซอร์ก็ว่ากันไป กันไว้ก่อนจะได้ไม่เสียใจภายหลังยังไงล่ะครับ

 

การเปลี่ยนครีมบำรุงไม่ใช่เรื่องผิด ใครๆก็อยากใช้ครีมที่ดีที่สุดทาแล้วหน้าใสไร้สิว แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามเพราะคิดว่าไม่สำคัญหรือเสียเวลานั่นคือ "การทดสอบครีม" ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆที่ช่วยป้องกันอาการแพ้หรือระคายเคืองก่อนใช้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบที่ข้อพับ หรือหลังใบหู ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีทดสอบที่ควรทำก่อนใช้ครีมตัวใหม่ทุกครั้ง อดใจรอผลการทดสอบสักหน่อย ดีกว่ามานั่งกลุ้มใจเพราะแพ้ครีมจนสิวเห่อเต็มหน้า จริงมั้ยครับ? รวมวิธีทดสอบการแพ้ครีมอย่างง่ายๆ ช่วยป้องกันอาการสิวเห่อก่อนใช้จริง(Patch test)

 

บางครั้งการผิดพลาดของคนอื่นอาจเป็นสิ่งเตือนใจให้กับตัวเราได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมาผมเองทำผิดพลาดมาหลายอย่าง รักษาสิวไม่ถูกวิธี ทำให้ต้องเป็นสิวมาอย่างยาวนาน พอรักษาหายก็เหลือร่องรอยแผลเป็นเอาไว้ดูต่างหน้า แต่เอาเถอะครับคนเราถ้าไม่ผิดพลาดเลยชีวิตคงไม่มีสีสัน ถ้าไม่พลาดก็คงไม่รู้ว่าทำให้ดีทำให้ถูกต้องทำยังไง ขอให้ความผิดพลาดของผม เป็นสิ่งเตือนใจคนเป็นสิวคนอื่นๆ ให้ผิดพลาดน้อยลง เดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้องก็แล้วกันครับ เอาใจช่วยคนเป็นสิวทุกคน สู้ สู้ ครับ!!!