5 เรื่องต้องระวัง เมื่อเป็นสิวช่วงวัยรุ่น
ช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงชีวิตที่สนุกสนาน ท้าทาย ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ แต่ช่วงวัยรุ่นก็เป็นช่วงเวลาที่ต้องต่อสู้กับปัญหาสิวที่ถาโถมเข้ามาอย่างหนักหน่วง หนักจนบางครั้งไม่รู้เลยว่าสิวจะหายได้หรือเปล่า วันนี้ผมมี "เรื่องควรระวังเมื่อเป็นสิวช่วงวัยรุ่น" มาฝาก ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลยครับ
1. ระวังเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ใช้
ตอนเป็นวัยรุ่นผมเป็นสิวเยอะมาก พอเป็นเยอะก็อยากรักษาสิวให้หายเร็ว ผลิตภัณฑ์รักษาสิวไม่ว่าจะเป็นโฟมล้างหน้า ครีมแต้มสิว ครีมบำรุง ตัวไหนใครว่าดีลองใช้หมด ขนาดครีมที่มีส่วนผสมสเตียรอยด์ก็ยังเคยใช้มาแล้ว นึกย้อนกลับไปยังรู้สึกกลัวใจตัวเอง สิ่งผมอยากบอกคือเมื่อเป็นสิวช่วงวัยรุ่น พยายามอย่าหาผลิตภัณฑ์แปลกๆมาใช้ โดยเฉพาะตัวที่ชอบโฆษณาเกินจริง เช่น ใช้แล้วสิวหายใน 7 วัน , ทาแล้วสิวหลุดออกมาเป็นเม็ดๆ หรือล้างหน้าแล้วหลุมสิวตื้น ช่วยรักษาหลุมสิวได้
ถ้าเจออะไรแบบนี้ควรระวังให้ดี ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนใช้ ถ้าไม่แน่ใจให้หลีกเลี่ยง เพราะถ้าใช้แล้วไปเจอตัวที่มีส่วนผสมของสารอันตรายบอกเลยว่าไม่คุ้ม หน้าพังกันมานักต่อนัก การรักษาสิวต้องใช้เวลาและความอดทน ดังนั้นวัยรุ่นอย่างเราต้องมีสติ อย่าใจร้อน ถ้าตัดสินใจไม่ถูกควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยครับ
2. ระวังเรื่องการบีบสิว
วันรุ่นเป็นช่วงวัยที่ตัดสินใจรวดเร็ว ใจร้อน บางคนเห็นสิวอยากให้สิวหายเร็วเลยจัดการบีบสิวบนหน้าซะเลย บีบจนสิวติดกระจกเต็มไปหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะการบีบสิวที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้สิวเกิดการอักเสบมากขึ้น ทำให้สิวหายช้าลงได้ ดังนั้นถ้าสิวขึ้นอย่าพยายามบีบสิว ให้ทายาหรือครีมแต้วสิวเพื่อให้สิวยุบลง ดูแลเรื่องความสะอาดให้ดี บางคนเป็นสิวอุดตันเยอะอาจต้องกดสิวร่วมด้วย ช่วยลดการเกิดสิวอักเสบไปได้เยอะเลยครับ
3. ระวังเรื่องอาหารการกิน
อาหารบางชนิดมีผลต่อการเกิดสิว โดยเฉพาะขนมที่มีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาลเยอะๆ อาจเป็นตัวกระตุ้นทำให้สิวขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ ดังนั้นช่วงนี้น้องๆคนไหนเป็นสิวเยอะ ลองงดกินขนม นม เนยสักพัก ผมว่ามีส่วนช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นได้ครับ
4. ระวังเรื่องการรักษาสิว
หากพูดถึงการรักษาสิว หลักๆแล้วแบ่งออกเป็น 2 ทาง คือ 1. หาหมอรักษาสิว กับ 2. รักษาสิวด้วยตัวเอง แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออก วิธีแรกเป็นวิธีที่ปลอดภัย หวังผลได้ เพราะรักษากับแพทย์เฉพาะทาง แต่ก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ส่วนอย่างหลังการรักษาสิวด้วยตัวเอง เราต้องประเมินตัวเอง หาข้อมูลเอง ซื้อยาหรือครีมรักษาสิวมาใช้เอง ข้อดีคือค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ไม่ต้องเสียเวลารอคิว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยผลการรักษาที่ไม่แน่นอน ถ้าถูกจุดสิวหายก็ดีไป แต่ถ้าไม่หายก็ต้องลองผิดลองถูกกันต่อไป
ดังนั้นควรเลือกวิธีที่เหมาะกับเรา ถ้าเป็นสิวเล็กน้อยไม่รุนแรง เราสามารถหาซื้อครีมแต้มสิวที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไปมาใช้ได้ แต่ถ้าเป็นเยอะจนมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตก็ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี น่าจะดีกว่าครับ
5. ระวังเรื่องสภาพจิตใจ
เป็นสิวตอนวัยรุ่นเป็นอะไรที่เครียดนะ อันนี้มาจากประสบการณ์ตรงของผมเลย ตอนมัธยมผมเป็นสิวแยะมากทั้งสิวอักเสบ รอยแดง รอยดำ เต็มหน้าไปหมด ตอนนั้นผมรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง ขาดความมั่น เวลาคนถามถึงสิวบนหน้ามันจะรู้สึก fail จนบางครั้งไม่อยากเข้าสังคมเลยก็มี แต่สุดท้ายผมผ่านมาได้ด้วยกำลังใจจากคนรอบข้าง และการเปลี่ยนความเศร้าให้เป็นพลัง ถึงเราเป็นสิวแต่เราเรียนเก่ง หรือว่าเป็นสิวแต่เราเล่นกีฬาเก่ง แต่ละคนมีพลังและจุดเด่นที่แตกต่างกัน อยากให้น้องๆที่เป็นสิวอย่าคิดมากหรือโฟกัสกับปัญหาสิวมากเกินไป ทำใจให้สบาย ใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นให้เต็มที่ ให้มีความสุข สิวเป็นได้ก็หายได้เชื่อผมครับ
ช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงที่เราควรให้ความสำคัญกับการรักษาสิวเป็นพิเศษ เพราะมันหมายถึงผิวหน้าที่ดีของเราในภายภาคหน้า โดยเฉพาะปัญหาหลุมสิวที่ถ้าได้เป็นแล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายเหมือนเดิมได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการรักษาไม่ถูกวิธี หรือปล่อยปละละเลยจนทำให้ปัญหาสิวลุกลามบานปลาย ยากจะแก้ไข ไม่อยากให้ใครเป็นแบบนี้เลย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับน้องๆที่เป็นสิวทุกคนครับ
Acnedefend บล็อกเพื่อคนเป็นสิวทุกๆคน
