มาตามสัญญากับ "แชร์ประสบการณ์รักษาหลุมสิวที่เคยทำมาภาค 2" อย่างที่บอกไว้ตอนก่อนจบในภาค 1 ว่าเหลืออีก 2 วิธียกยอดไปบทความหน้า แต่พอนึกไปนึกมาผมมีอีก 1 วิธีที่ไม่ใช่การรักษาหลุมสิวโดยตรงแต่ตอนนั้นผมทำร่วมกันกับการรักษาหลุมสิว เพื่อรักษารอยดำให้หายเร็วขึ้น เรียกวิธีการนี้ว่า "VIPL" ซึ่งผมจะเล่าให้ฟังไปพร้อมกับวิธีรักษาหลุมสิวที่เหลือด้วยครับ
ประสบการณ์รักษาหลุมสิว
- Subcision
- Mini Subcision
- VIPL
1. Subcision
Subcision เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวโดยการใช้เข็มขนาดเล็กเซาะลงไปใต้ฐานหลุมสิวเพื่อให้เกิดการสร้างผิวใหม่ ช่วยทำลายพังผืดที่ยึดปากหลุมลง ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้
วิธีทำ Subcision
- พนักงานเช็ดทำความสะอาดหน้าด้วยคลีนซิ่ง
- ทายาชาทั่วหน้า หรือบริเวณที่เป็นหลุมสิว ทาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
- พอหน้าชาได้ที่หมอจะเริ่มทำ Subcision โดยใช้เข็มเซาะไปที่หลุมสิว ความรู้สึกตอนทำจะเหมือนโดนมีดคัตเตอร์กรีด รู้สึกชัดมากแต่ไม่เจ็บเพราะทายาชา
- หมอจะไล่เซาะไปทีละหลุมแต่จะไม่ทำทุกหลุม จะทำเฉพาะหลุมสิวที่มีขนาดใหญ่เป็นแอ่งกระทะมากกว่า ซึ่งระหว่างที่ทำเลือดจะไหลออกมามาก ผู้ช่วยจะคอยซับเลือดและประคบเย็นให้ตลอดเวลาเพื่อลดอาการบวมที่อาจเกิดขึ้น
- หลังจากหมอทำ Subcision ให้เสร็จ ผู้ช่วยหรือพนักงานจะทำความสะอาดหน้าให้เรา พร้อมกับทาครีมเพื่อป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อหรืออักเสบ เป็นอันเสร็จพิธี
ความถี่ในการทำ
สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงจากการทำ Subcision ที่เห็นชัดเจนสุด คือ หน้าจะช้ำ เป็นจ้ำๆสีม่วงดำ อาจไม่เป็นทุกจุด แต่จุดไหนที่ช้ำหนักอาจต้องใช้เวลาฟื้นฟูเป็นเดือนกว่าจะหายสนิท
ผลที่ได้
ผมเคยทำ Subcision 2 ครั้ง แต่ไม่เคยทำเดี่ยวๆเลย ทำเป็นคอร์สคู่กับการรักษาหลุมสิววิธีอื่นด้วยทุกครั้ง ผลที่ได้ก็มีทั้งที่ดีขึ้น และไม่เห็นผล คือ บางจุดมันแยกไม่ออกว่าที่ดีขึ้นเพราะ Subcision หรือเพราะทำอย่างอื่นด้วย เพราะตอนทำเราจำไม่ได้ว่าหมอเซาะหลุมสิวให้จุดไหนบ้าง
สรุปแล้วผมคิดว่าการทำ Subcision เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนเป็นหลุมสิวไม่เยอะ แต่เป็นจุดใหญ่ๆ ถ้าเป็นเยอะผมว่าทำเลเซอร์คุ้มกว่า
2. Mini Subcision
เป็นวิธีรักษาหลุมสิวที่เน้นการกระตุ้นการสร้างผิวใหม่จากภายนอกโดยมีเครื่องมือที่ใช้อยู่ 2 แบบ แบบแรกจะเป็นเครื่องมือที่ประกอบด้วยเข็มขนาดเล็ก แบบที่สองมีลักษณะเป็นค้อน เวลาทำหมอจะใช้ค้อนทุบหน้าเรา อารมณ์น่าจะเหมือนตอนทำหมูทุบประมาณนั้น ส่วนเราจะได้ทำด้วยเครื่องมือตัวไหนขึ้นอยู่กับความถนัดของหมอ ส่วนผมเองโชคดีมีโอกาสได้ทำทั้ง 2 ตัว มีเรื่องเล่าให้ฟังเยอะเลย
วิธีทำ Mini Subcision
- พนักงานเช็ดทำความสะอาดหน้าด้วยคลีนซิ่ง
- ทายาชาทั่วหน้า หรือบริเวณที่เป็นหลุมสิว ทาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
- หมอเริ่มทำ Mini Subcision ทั่วหน้า หมอคนแรกใช้เครื่องมือที่เป็นเข็มขนาดเล็กมาแสตมป์ทั่วหน้า อารมณ์เหมือนเอาเข็มมากระจุกหนึ่งทิ่มลงหน้าเรา ไล่ทิ่มไปเรื่อยๆ ถามว่าเจ็บมั้ยก็มีบ้างแต่ไม่มาก เจ็บน้อยกว่าทำ Dermaroller เยอะ ส่วนหมอคนที่สองถนัดใช้ค้อนก็จะใช้ค้อนทุบลงไปบริเวณที่เป็นหลุมสิวของเรา ไล่ทุบจนทั่วหน้า เทียบความเจ็บแล้วผมว่าวิธีแรกเจ็บน้อยกว่า โดนค้อนทุบเจ็บกว่า แต่ถ้าเทียบความเยินของหน้าหลังทำเสร็จ ผมว่าวิธีแรกเยินกว่า
- หลังจากหมอทำ Mini Subcision เสร็จทั่วหน้าแล้วก็บอกผมว่า กลับบ้านไปอย่าเพิ่งล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า ให้ใช้น้ำเปล่าล้างไปก่อน พรุ่งนี้ถึงจะล้างหน้าทาครีมได้ตามปกติ พูดแนะนำเสร็จก็เดินออกห้องไป
- พนักงานรับช่วงต่อ ทำความสะอาดหน้า พร้อมกับทายาฆ่าเชื้อให้ ไม่แน่ใจว่าใช่เบตาดีนหรือเปล่า แต่ส่องกระจกเห็นหน้าเหลืองๆเลยคิดว่าน่าจะใช่
ผลข้างเคียง
หน้าเราจะเต็มไปด้วยรอยแดงจากเข็มเต็มหน้าไปหมด 3 วันแรกออกนอกบ้านต้องใช้หน้ากากอนามัยคาดตลอด ไม่งั้นจะมีแต่คนมองเราเหมือนเป็นตัวประหลาด ต้องพักหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ถึงจะกลับมาเป็นปกติ
ผลที่ได้
ถามว่าหลุมสิวหายมั้ย? ก็ไม่หาย แต่ถามว่าดีขึ้นมั้ยก็รู้สึกดีขึ้นครับ รู้สึกว่าหลุมสิวตื้นขึ้นบ้างในบางจุด บางจุดก็ดูไม่แตกต่าง โดยรวมแล้วพอใจในระดับหนึ่ง แต่ข้อเสียที่เห็นได้ชัดจากการทำ Mini Subcision คือ การพักฟื้นที่ยาวนาน ขนาดทำ VIPL เพื่อลดรอยดำควบคู่ไปด้วย รอยยังหายช้ามาก ใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนกว่าผิวหน้าจะกลับเป็นปกติ แต่บางครั้งก็แอบคิดว่า ที่รอยดำหายช้าเพราะผมอายุเยอะแล้วหรือเปล่านะ อืม.... น่าคิด น่าคิด
3. VIPL
VIPL เป็นคลื่นแสงใช้สำหรับลดปัญหารอยดำจากสิว กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้จุดด่างดำจากสิวจางเร็วขึ้น นอกจากนี้ผลข้างเคียงจากการยิงคลื่นแสงยังสามารถช่วยลดการเกิดสิวได้ด้วย
วิธีทำ VIPL
- พนักงานเช็ดทำความสะอาดหน้าด้วยคลีนซิ่ง
- คลุมหัวด้วยหมวกคล้ายหมวกอาบน้ำ พร้อมกับปิดตาด้วยแว่นทึบแสงเพื่อป้องกันไม่ให้แสงเข้าตา
- หมอเริ่มยิงคลื่นแสง VIPL โดยไล่จากหน้าผาก ขมับ แก้ม คาง ระหว่างยิงจะเห็นแสงสีแดงวาบเข้ามาบริเวณหางตา พร้อมกลิ่นไหม้เวลายิงโดนขนที่หน้าอีกเป็นระยะๆ ระหว่างยิงจะมีผู้ช่วยคอยถือพัดลมเป่าลม และประคบเย็นให้ตลอด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความร้อนมากเกินไป ยิง 1 ช็อต ประคบ 1 ครั้ง ตรงไหนมีรอยดำมากหน่อยหมอก็จะยิงแถมให้ ไม่จำกัดจำนวนช็อตเพราะเราซื้อเหมาเป็นคอร์สอยู่แล้ว
- หลังจากยิง VIPL เสร็จหมอแนะนำวิธีดูแลผิวหน้าให้ผม บอกว่าสามารถล้างหน้าทาครีมได้ตามปกติ และพยายามอย่าโดนแดดเยอะ ทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน หลังจากนี้อีก 3-4 วันอาจมีสะเก็ดแผลสีน้ำตาลเล็กๆเกิดขึ้นบ้าง ไม่ต้องตกใจเป็นเรื่องปกติ อย่าไปแกะให้มันหลุดออกตามธรรมชาติดีที่สุด ประมาณ 7-10 วันจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้น พูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไป
- ผู้ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าให้ผม พร้อมกับลงครีมให้ 3 ตัว คือ ครีมลดการระคายเคือง , ครีมลดการอักเสบ , และครีมกันแดด พร้อมกับรับวิตามินซีกลับบ้านไปกินอีก 1 ถุง
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงจากกรทำ VIPL มีน้อยมาก หลังทำจะมีอาการหน้าแดงเล็กน้อย ผ่านไป 2 ชั่วโมงก็กลับเป็นปกติ นอกนั้นอาจมีสะเก็ดแผลขนาดเล็กเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งไม่เป็นปัญหา ไม่กี่วันเดี๋ยวมันก็หลุดออกเอง
ผลที่ได้
ส่วนตัวผมรู้สึกว่าการทำ VIPL ช่วยให้รอยดำหายเร็วขึ้นมาก คือ ถ้าจุดด่างดำไม่ได้หนักหน่วงเหมือนรอยช้ำที่เกิดจากการทำ subcision แป๊บเดียวก็หาย หลังทำ VIPL ประมาณ 5 วันผมรู้สึกเลยว่าหน้าสว่างขึ้น ผิวดูกระชับมากขึ้น ใครมีปัญหารอยดำจากสิวเรื้อรังผมแนะนำเลยครับ ช่วยให้รอยสิวหายเร็วขึ้นจริง
นี่คือประสบการณ์รักษาหลุมสิวที่ผมอยากแชร์ให้อ่านกันในวันนี้ จริงๆแล้ว 3 วิธีนี้ผมทำในคอร์สเดียวกันเลย แถมตอนทำไม่ได้ตั้งใจทำด้วย เริ่มต้นจากแค่ไปฉีดสิว พอฉีดสิวเสร็จเห็นว่าไหนๆก็เจอหมอแล้วเลยถามหมอว่า มีวิธีรักษาหลุมสิวแนะนำมั้ยครับ หมอก็แนะนำให้ทำ Mini Subcision พร้อมบอกโปรโมชั่นให้เสร็จสรรพ
ตอนแรกกะจะไม่ทำฟังไว้ก่อน แต่พอไปเจอพนักงานขายหน้าเคาน์เตอร์เอาโปรโมชั่นมาล่อใจเท่านั้นแหละ รู้ตัวอีกทีเอาบัตรเครดิตให้เค้ารูดไปเรียบร้อย 20,000 บาท ทำ Mini Subcision 4 ครั้ง VIPL 4 ครั้ง ส่วน Subcision เป็นเหมือนตัวแถมให้มากกว่า ตัวเบาเลยทีเดียว สุดท้ายนี้หวังว่าประสบการณ์รักษาหลุมสิวของผมในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกคนครับ